Last updated: 29 มี.ค. 2567 | 1238 จำนวนผู้เข้าชม |
ฟิล์มหดจะมีอยู่สองประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ PVC และ POF คือแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน บทความนี้จะเปรียบเทียบฟิล์มหด PVC และ POF เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกประเภทฟิล์มหดที่เหมาะสมกับความต้องการด้านการใช้งานได้ง่ายขึ้น
ฟิล์มหด POF คือ Polyolefin Shrink Film เป็นฟิล์มหดชนิดหนึ่งที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีโอเลฟิน ประกอบไปด้วย พอลิโพรพิลีน และ พอลิเอทิลีนที่พบได้ในการผลิตถุงพลาสติกทั่วไป มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันไฟฟ้า มาพร้อมกับรูปลักษณ์สีใส ที่ทั้งเหนียว ยืดหยุ่น กันน้ำ และทนความร้อนในขณะเดียวกัน มักจะนำมาใช้ ห่ออาหาร และเครื่องดื่ม, ห่อหนังสือ, ห่อเสื้อผ้า, ของใช้, ห่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ห่อสินค้าสำหรับขนส่ง เป็นต้น
ลักษณะที่โดดเด่นของ POF shrink film คือ จะมีลักษณะใสกว่า PVC อย่างเห็นได้ชัด มองเห็นสินค้าภายในได้ชัดเจน มีความเหนียว ทนทาน ไม่ขาดง่าย ยืดหยุ่นได้ดี และหดตัวแนบกับสินค้าเพราะเป็นเทคโนโลยีฟิล์มหดเป่าลมร้อน มีสัมผัสนุ่มลื่น ไม่กระด้าง ไม่มีกลิ่นเหม็น แต่ยับง่าย และมักจะหดตัวเมื่อโดนความร้อนที่สำคัญ POF สามารถย่อยสลายได้ จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างที่ทราบกันดีกว่า shrink film คือเทคโนโลยีในการห่อหุ้มสินค้าที่ยืดหยุ่นที่สุด แต่สำหรับ POF ยังสามารถไปไกลกว่านั้นได้อีกโดยแบ่งเทคโนโลยีการใช้งานทั้งหมดออกเป็น 4 ประเภทด้วยกันซึ่งได้แก่
POF Shrink Regular
สำหรับ POF Shrink Regular คือ POF Shrink Film ชนิดทั่วไปที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีโอเลฟิน นิยมใช้สำหรับห่อหุ้มสินค้าเพื่อปกป้องผิวสัมผัสของผลิตภัณฑ์ โดยตัวฟิล์มจะไม่มีคุณสมบัติอะไรที่เด่นมาก มีความบาง ใส และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับการบรรจุสินค้าทั่วไป เช่น กล่องเครื่องสำอาง กล่องอาหารเสริม หนังสือ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต เป็นต้น
POF Shrink Anti-fog
Anti-Fog POF คือ ฟิล์มหดชนิดพิเศษที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีโอเลฟิน ผ่านกรรมวิธีการเคลือบสาร Anti-fog เพิ่มเติมบนฟิล์ม ช่วยป้องกันปัญหาการเกิดฝ้าหรือไอน้ำบนผิวฟิล์ม เหมาะสำหรับใช้กับสินค้าประเภทอาหารสด ผักผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ยา อาหารทะเล
POF Shrink cross-linked
ฟิล์มหดประเภทนี้ เป็นเทคโนโลยีเดียวกับการผลิตถุง pe คือใช้เม็ดพลาสติกโพลีโอเลฟิน ผ่านกระบวนการ Cross-Linked เพิ่มเติม ช่วยให้ฟิล์มมีความแข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่นสูง ทนต่อแรงดึง แรงฉีกขาด และความร้อน เหมาะสำหรับใช้กับสินค้าที่มีน้ำหนักมาก รูปทรงพิเศษ หรือต้องการความแข็งแรงสูง เช่น เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม หนังสือ กล่องซีดี กล่องดีวีดี
POF High Performance
ประเภทสุดท้ายเป็นฟิล์มหดชนิดพิเศษที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีโอเลฟินเช่นกัน ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่พิเศษ ช่วยให้ฟิล์มมีความเหนียว ยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อแรงดึง แรงฉีกขาด ทนความร้อน กันน้ำ กันรอยขีดข่วน ป้องกันรังสียูวี เหมาะสำหรับใช้กับสินค้าที่มีความต้องการสูง ต้องการความทนทาน ปกป้องสินค้าจากแสงแดด และยืดอายุการเก็บรักษาสินค้า เช่น อาหารทะเล ยา อาหารแช่แข็ง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์กีฬา
ฟิล์มหด POF (Polyolefin Shrink Film) และ ฟิล์มหด PVC (Polyvinyl Chloride Shrink Film) เป็นฟิล์มหดที่ใช้กันทั่วไปในการแพ็กสินค้าอย่างที่ทราบกันดี เพื่อให้เห็นความแตกต่างในการใช้งานได้ชัดเจนมากขึ้น ทางเราจึงนำมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายขึ้นดังนี้
ด้านวัสดุ
POF ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีโอเลฟิน ประกอบไปด้วย พอลิโพรพิลีน (PP) และ พอลิเอทิลีน (PE)
PVC ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีไวนิลคลอไรด์
ด้านคุณสมบัติ
POF ใส เหนียว ยืดหยุ่น กันน้ำ ทนความร้อน ทนรอยขีดข่วน ป้องกันรังสียูวี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ด้านการใช้งาน
POF เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการความใส เหนียว ยืดหยุ่น ทนทาน ปกป้องสินค้าจากแสงแดด และยืดอายุการเก็บรักษา เช่น อาหารทะเล ยา อาหารแช่แข็ง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์กีฬา
PVC เหมาะสำหรับสินค้าทั่วไป เน้นความใส เหนียว ยืดหยุ่น กันน้ำ ทนความร้อน
ความปลอดภัย
POF ปลอดภัย ไร้สารพิษ เหมาะกับการใช้กับอาหาร
PVC มีสารพิษ ปนเปื้อนโลหะหนัก ไม่เหมาะกับการใช้กับอาหาร
ด้านราคา
POF ราคาสูงกว่า PVC
PVC ราคาถูก
ถึงแม้ว่าฟิล์มหด POF จะมีข้อดีหลากหลายประการเมื่อเทียบกับฟิล์มหดประเภท PVC แต่ในด้านการใช้งานจริงแล้ว ยังคงมีข้อเสียที่ต้องนำมาพิจารณาก่อนการใช้งานเพิ่มเติมด้วย ซึ่งแบ่งเป็นข้อดีข้อเสียดังต่อไปนี้
ข้อดีของฟิล์ม POF คือ
ย่อยสลายได้
กันน้ำ กันความชื้น
ทนความร้อนปานกลาง
เหนียว ทนทาน ไม่ขาดง่าย
ยืดหยุ่นได้ดี หดตัวแนบกับสินค้า
มีความใสสูง มองเห็นสินค้าภายใน
ปลอดภัย ไร้สารพิษ เหมาะกับการใช้กับอาหาร
มีหลายคุณสมบัติให้เลือก เช่น POF Shrink Regular, POF Shrink Anti-fog, POF Shrink cross-linked, POF High Performance
ข้อจำกัดของฟิล์ม POF คือ
ทนรอยขีดข่วนได้น้อย
มีราคาสูงกว่าฟิล์ม PVC
ทนความร้อนได้ไม่สูง ไม่ควรใช้กับสินค้าที่ร้อนจัด
Q : มีฟิล์มชนิดอื่นที่สามารถใช้แทนฟิล์มหด POF ได้หรือไม่ ?
A : มีฟิล์มชนิดอื่นที่สามารถใช้แทนฟิล์มหด POF ได้ เช่น ฟิล์ม PVC ฟิล์ม PET มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียง แต่ไม่ตอบโจทย์เท่า POF หากต้องการความใส ทนทาน เหนียวแน่น และไม่มีสารเคมี และ PET ยังมีราคาสูงกว่า POF
Q : ฟิล์มหด POF ทนความร้อนหรือไม่ ?
A : ฟิล์มหด POF กันน้ำ สามารถป้องกันสินค้าจากน้ำและความชื้นได้ เนื่องจากมีหลายแบบ แต่ละแบบมีความกันน้ำแตกต่างกัน ถึงแม้ว่าอาจไม่สามารถกันน้ำได้ 100% ขึ้นอยู่กับแรงดันน้ำ แต่ก็สามารถเสื่อมสภาพได้เมื่อสัมผัสกับน้ำเป็นเวลานาน
จากบทความข้างต้นสรุปแล้ว POF คืออะไร ? เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกด้านเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจ สำหรับการห่อหุ้มสินค้าที่ต้องการความใส เหนียว ยืดหยุ่น กันน้ำ ทนความร้อน ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะว่าสามารถย่อยสลายได้ หากคุณเป็นผู้ประกอบการและต้องการบริการ รับซีลสินค้า หรือ รับบรรจุสินค้า แล้วละก็ ทาง Propack Asia ก็พร้อมให้คำปรึกษาพร้อมข้อเสนอที่ถูกใจแน่นอน ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการได้ที่โทร 082-964-5665 หรือจะไลน์มาที่ @propack-asia การันตีคุณภาพและความเป็นมืออาชีพด้านการแพ็คสินค้า
23 เม.ย 2567
24 เม.ย 2567